admin
ผู้ดูแลระบบ
ผู้ดูแลระบบ
โพสต์: 247 | | กรรม: 0
|
เกี่ยวกับน้ำยา R410a - 26/04/2009 09:01
.
โลกร้อน ตลาดแอร์ทุกค่ายเปลี่ยนสูตรน้ำยาจาก R22 เป็น R410a รักษาโอโซน
โลกร้อน ตลาดเครื่องปรับอากาศ ทุกค่ายพร้อมใจเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศจากสูตรเดิม R 22 สู่สูตรใหม่ R410a ไม่มีสารทำลายชั้นโอโซนรักษาและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ซัยโจ เดนกิ คุยเริ่มผลิตสินค้าที่ใช้น้ำยาดังกล่าวส่งตลาดยุโรปบ้างแล้ว เช่นเดียว ซัมซุง / เทรนขี่กระแสเช่นกันชี้ต้นทุนพุ่ง 30 % หลังผู้นำตลาด มิตซูบิชิ อิเลคทริค เปลี่ยนเป็นค่ายแรกราคาพุ่งจากรุ่นปกติ 20-30 % ภาวะอุณหภูมิที่สูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มมากขึ้น แนวชายฝั่งเกิดการกร่อนตัว ป่าไม้ในเขตภูเขาสูงแห้งแล้ง ฯลฯ เหล่านี้คือผลพวงเล็กๆ น้อยๆ และยังเป็นสัญญาณเตือนจากปรากฏการณ์ Global Warming หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นปัญหาสำคัญที่หลายฝ่ายไม่สามารถที่จะมองข้ามได้ เนื่องจากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน คงหนีไม่พ้นฝีมือของ มนุษย์
ปัจจุบันผู้ประกอบ การหลายรายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ และได้เร่งหาวิธีในการช่วยเหลือโลกอย่างเต็มที่ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า นับเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือ และหาช่องทางการแก้ไขปัญหาในจุดนี้ โดยผู้ผลิตได้มีการร่วมมือกันทั่วโลกในการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศ จากเดิมคือ R 22 มาเป็น R 410 A ตามสนธิมอลทรีออล ซึ่งปีค.ศ. 2020 เครื่องปรับอากาศทุกแบรนด์ต้องเปลี่ยนน้ำยามาใช้ตัวนี้ โดยคุณสมบัติเด่นของตัวยาใหม่นี้จะอยู่ที่การไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ ทำลายชั้นบรรยากาศโลก อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เดนกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า บริษัทมีความพร้อมในการผลิตสินค้าเพื่อรองรับการใช้น้ำยารุ่นใหม่ R 410a อยู่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันได้ผลิตสินค้าที่ใช้น้ำยาดังกล่าวส่งออกไปยังประเทศในแถบ ยุโรปที่มีข้อกำหนดบังคับให้ใช้น้ำยาตัวนี้ ขณะที่ในประเทศไทยนั้น ยังใช้น้ำยารุ่นเก่า R 22 และอยู่ระหว่างการพัฒนาตัวน้ำยาให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับของรุ่น ปัจจุบันที่ใช้อยู่ เพราะปัจจุบันน้ำยาตัวใหม่ยังมีปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพ ที่หากว่ามีการรั่วของน้ำยาเครื่องปรับอากาศจะต้องเปลี่ยนน้ำยาออกหมด ไม่สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้เหมือนกับรุ่นเก่า
ขณะที่ค่าใช้จ่าย นั้น ระหว่างน้ำยาที่ใช้ในปัจจุบันกับน้ำยาตัวใหม่นั้น มีต้นทุนที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ซึ่งหากมีเงื่อนไขให้ผู้ผลิตในประเทศต้องใช้น้ำยา R 410a บริษัทก็พร้อมดำเนินการทันที
ด้านนายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายขาย และฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศซัมซุง บริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเด็นการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศในผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ทุกรุ่น ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังภายในปีค.ศ.2020 นั้น ถือเป็น 1 ในข้อตกลงของสนธิมอลทรีออล ดังนั้นทุกบริษัททั่วโลกจึงจำเป็นที่จะต้องทำตามข้อตกลงที่ว่าไว้
ในส่วนของ ทางบริษัทได้มีการใช้น้ำยาเครื่องปรับอากาศชนิด R 410a กับผลิตภัณฑ์บางชิ้นที่ส่งออกไปขายในยุโรปมาก่อนแล้ว ดังนั้นทางผู้ผลิตจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการผลิต และการใช้น้ำยาเครื่องปรับอากาศ แต่สำหรับตัวแทนติดตั้งจำเป็นที่จะต้องศึกษา และฝึกฝนเพิ่มเติมในเรื่องของวิธีการติดตั้ง อีกทั้งวิธีการชั่ง, ตวง และวัดปริมาณของน้ำยา เนื่องจากมีส่วนประกอบมากกว่า 1 ชนิด ผู้จัดการฝ่ายขาย และฝ่ายการตลาด กล่าวและว่า
นอกจากนี้ในเรื่อง ของต้นทุนการผลิตนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาประมาณ 30% โดยจะส่งผลถึงราคาของผลิตภัณฑ์ที่จะเพิ่มตามมาด้วย โดยราคาของผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ได้รับการเปลี่ยนน้ำยาแล้ว ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 5-10% และจะใช้เวลาในการเปลี่ยนน้ำยาในทุกผลิตภัณฑ์ภายในระยะเวลา 1 ปี
นายอังกูร โชตินิสากรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เทรน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงประเด็นการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศว่า สำหรับการเปลี่ยนน้ำยานั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องปรับอากาศ และตัวคอมเพรสเซอร์เป็นสำคัญ โดยขณะนี้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศของบริษัทส่วนใหญ่ใช้น้ำยารุ่น R 123 ซึ่งถือเป็นอีกตัวยาหนึ่งที่ได้รับการรับรองว่าเป็นน้ำยาเครื่องปรับอากาศ ที่ดีที่สุดในโลกในด้านของการประหยัดพลังงาน ส่วนในเรื่องของต้นทุนการเปลี่ยนน้ำยาจะไม่เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งราคาของผลิตภัณฑ์ไม่ถือว่าเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา ซึ่งน้ำยาเครื่องปรับอากาศถือเป็นปัจจัยย่อยไม่ถึง 10%
อย่างไรก็ดีขณะนี้ เครื่องปรับอากาศแบรนด์ที่กระตือรือร้นเปลี่ยนน้ำยาแอร์เป็น R410a แล้วได้แก่ผู้นำตลาดมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ของบริษัทมิตซูบิชิ อิเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ซึ่งทำเฉพาะรุ่นพรีเมี่ยมระบบซิตี้มัลติ ซึ่งเป็นแอร์ 2 ระบบ ทำความเย็นและความร้อนในเครื่องเดียวกัน รุ่น Inverter ขนาดตั้งแต่ 8,700-17,000 บีทียู โดยราคาขนาด 8,700 บีทียูอยู่ที่ 45,400 บาท ขนาด 12,000 บีทียู อยู่ที่ 51,700 บาท และ 17,000 บีทียู อยู่ที่ 72,000 บาท/ชุด ซึ่งสูงกว่ารุ่นปกติเฉลี่ย 20-30 % ขณะที่แบรนด์พานาโซนิคเบอร์ 2 ของตลาดก็เปลี่ยนน้ำยาแอร์จากR 22 มาใช้ R 410a ในรุ่นอินเวอร์เตอร์แล้วเช่นกัน .
แก้ไขโดย: admin, เมื่อ: 26/04/2009 09:03
|